วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560

กิจกรรมหากฉันตาย

ขั้นตอนการทำงาน มีอะไรบ้าง และ ทำอย่างไร :
๑.      เปิดคลิป “คุณค่าของชีวิต” 7.10-11.45
๒.      ให้ทุกคนนั่งสงบนิ่ง อยู่กับตัวเอง + กระบวนกรพาคิดเรื่องความตาย
๓.      แจกกระดาษและปากกา คนละ ๑ แผ่น/ด้าม
๔.    ชวนมาตอบคำถามของชีวิต และเขียนตอบลงในกระดาษแผ่นขาวบริสุทธิ์

a.     หากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตนี้ อะไรที่อยากทำก่อนไป
b.     หากอยู่ในสถานการณ์ใกล้สิ้นใจ ร่างกายทุกข์ ทรมาน เจ็บปวดแสนสาหัสเหมือนกำลังจะแตกดับ วินาทีนั้นเราพร้อมเผชิญกับมันหรือยัง เพราะอะไร
c.     หากก่อนตาย มีเวลาให้เด็กๆได้พบกับคนที่เคยโกรธเคือง ไม่พอใจ และคนที่เราเคยทำให้เขาไม่พอใจหรือทุกข์ใจเพราะเรา เราอยากจะทำหรือบอกอะไรกับเขา
d.     หากก่อนตาย ก็ยังเหลือเวลาอีกน้อยนิดให้เราได้พบกับคนที่เรารัก มีบุญคุณ คนที่เราอยากเจอมากๆก่อนจะจากโลกนี้ไป เราอยากจะทำหรือบอกอะไรกับเขาเหล่านั้น
e.     ชีวิตเราจะตายเมื่อไหร่ยังไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆคือ ชีวิตเป็นสิ่งมีค่ามาก อย่างนั้นชีวิตที่เหลืออยู่เราจะทำอะไร ให้ควรค่ากับชีวิตที่มีค่านี้ของเรา

๕.    สรุป เด็กๆคิดว่าชีวิตเราแน่นอนหรือไม่ ฉะนั้นมีแต่ผู้ไม่ประมาทเท่านั้นที่จะสามารถเก็บเกี่ยวสิ่งที่ดีที่สุดให้ชีวิตของเขาได้ และจะไม่นึกเสียดายเลย หากวันสุดท้าย วันนั้นมาถึง และโอกาสที่จะเป็นผู้ไม่ประมาทของเด็กๆทุกคนมาถึงแล้ว คว้าไว้ซะ ขอให้โชคดี
๖.   ทำแบบประเมินกิจกรรม
  
    อุปกรณ์ที่ใช้
๑.      กระดาษ และปากกา ตามจำนวนนักเรียน
๒.      คลิป “คุณค่าของชีวิต”
๓.      โน้ตบุค
๔.    ลำโพง

กิจกรรมสามเหลี่ยมชีวิต

ขั้นตอนการทำงาน มีอะไรบ้าง และ ทำอย่างไร  :
๑.     ครูแจกกระดาษและปากกาให้คนละ ๑ ชุด เมื่อทุกคนได้แล้ว ให้วางไว้ด้านหน้าก่อน แล้วตั้งใจฟังครูอธิบาย
๒.     ครูนำเข้าด้วยคำถามว่า “เด็กๆเคยลองเปรียบเทียบการดูแล พึ่งพาตนเองของมนุษย์กับสัตว์ดูบ้างไหม เด็กๆว่าต่างไหม อย่างไร มนุษย์เป็นสัตว์ประเภทที่ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ เป็นหลายปี ต่างจากสัตว์ประเภทอื่นๆ เช่น วัว ไก่ ปู ปลา คลอดมาแป๊บเดียวก็เดินได้ ไม่ต้องดูแลใกล้ชิด หากินเองได้แล้ว แต่มนุษย์ต้องดูแล ประคบ ประหงม พาหัดเดิน เดินเองไม่ได้ จริงไหม  ตั้งแต่เกิดจนเติบโตขึ้นมา ในชีวิตเรามีใครคอยดูแล ให้อะไรเราบ้าง
๓.  “วันนี้ครูอยากจะชวนนักเรียนมาระลึกถึงบุคคลที่เป็นฐานของชีวิตเรา เป็นผู้มีบุญคุณ ทำสิ่งดีๆให้เรามาตลอด อาจเป็นคนที่เราได้รับแรงบันดาลใจจากเขา หรือแม้ไม่ได้ทำดีกับเรา แต่ก็ได้เรียนรู้จากเขาก็ได้ นึกถึงชื่อเขาแล้วเขียนสิ่งที่เขาทำให้เราด้านล่างชื่อ ลงในสามเหลี่ยมที่แทนชีวิตเรา
๔.   เมื่อเขียนเสร็จ ตามเวลา ๕ –๑๐ นาที ให้กลับมาอยู่กับตัวเองสักครู่ แล้วให้ระลึกถึงคนที่เราเขียนลงไปเมื่อครู่ แล้วน้อมจิตขอบพระคุณเขา ตั้งใจว่า เราจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ฝึกฝน พัฒนาตนเองเพื่อเขา จากแรงบันดาลใจที่ท่านหรือเขาที่มอบให้มา
๕.   ให้นักเรียนจับคู่กัน แล้วส่งกระดาษของเราให้เพื่อนอ่าน แลกเปลี่ยนโดยแต่ละคนเลือกชื่อของผู้มีพระคุณของเพื่อนมา ๑ ชื่อและขอให้เพื่ออธิบายให้ฟัง ว่าเป็นมาอย่างไร (๕ นาที)
๖.    เคาะระฆัง หมดเวลา ๒ รอบ
๗.   ครูจบด้วยคำถาม “รู้สึกอย่างไรกันบ้าง ขออนุโมทนากับความตั้งใจอันดี และความร่วมมือของเด็กๆทุกคน ครูขอเป็นกำลังใจให้อีกหนึ่งกำลังใจของชีวิตเด็กด้วยคน”
๘.    จบกิจกรรม กราบลาพระ สวัสดีคุณครู
  
อุปกรณ์ที่ใช้
๑.     กระดาษรูปสามเหลี่ยม (ตัวอย่าง)
๒.     กระดาษ ขาว A4 ตามจำนวนนักเรียน
๓.     ปากกา

ระยะเวลาที่ใช้ ๓๐-๔๐ นาที


กิจกรรมฉันเท่านั้นที่รู้ตัวฉันเอง

ขั้นตอนการทำงาน มีอะไรบ้าง และ ทำอย่างไร  :
๑.     ให้นักเรียนจัดแถวตอนเรียงหนึ่ง ๒ แถว กลางห้อง ห่างกัน ๑ ช่วงแขนทั้งด้านข้างและด้านหน้า
๒.     หันหลังเข้าหากัน
๓.     ครูอธิบายกติกาของการรู้ตัวเอง คือ “ เกมรู้จักตนเองจำเป็นต้องปิดตา จึงจะเห็นตัวเองได้ง่าย เพราะตลอดชีวิต ไม่เห็นตัวเองชัดเจนก็เพราะเรา เปิดตาแล้วมองแต่คนอื่นมาตลอด เขามองเราแปลกๆ ทำหน้า ท่าทางอย่างนั้นอย่างนี้ ก็จะเอาเก็บมาคิด มาทุกข์ใจไม่เว้นแต่ละวัน ดังนั้น หากจะเห็นตัวเอง ก็ต้องรู้จักปิดตานอก มาดูด้วยตาในบ้างเป็นช่วงๆ”
๔.   ครูอธิบายการพับและมัด ปิดให้ได้ตามมาตรฐานการปิดตาทุกคน (ครูผู้ช่วยแจกผ้าปิดตา)
๕.   ครูถาม “ตอนนี้ใครมองเห็นอยู่บ้าง ยกมือขึ้น ใครไม่เห็นยกมือขึ้น ใครมองเห็นเอามือลง”
๖.     ครูอธิบาย “เมื่อครูอ่านคำถาม หากใช่ ให้ก้าวออกมาครึ่งก้าว ช้าๆ ไม่รีบร้อน เสียงที่เบาที่สุด อย่างมีสติ ค่อยๆคิด ไตร่ตรองก่อนก้าวเสมอ แล้วก้าวถอยหลังกลับมาที่เดิม ขอให้ตอบอย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัว ไม่มีใครเห็นเรา ครูเองก็จะไม่ใส่ใจจำ และไม่บอกใครแน่นอน มีแต่ตัวเราเองเท่านั้นที่รู้”
๗.   พร้อมรึยัง เมื่อพร้อมก็เริ่มอ่านทีละข้อ พักช่วงสั้นๆ ไม่เร่งจนเกินไป เพื่อให้โอกาสนักเรียนได้คิด ไตร่ตรอง ซื่อสัตย์กับตัวเอง
๘.    ระหว่างที่ทำกิจกรรม (ครูผู้ช่วย จดรายชื่อนักเรียนของแต่ละข้อไว้เป็นข้อมูล)
๙.   ก่อนจบกิจกรรม ครูถามคำถามให้นักเรียนทบทวนตนเองอีกรอบ ว่า “เป็นอย่างไรกันบ้าง ก่อนที่จะเปิดตานอก ลองสำรวจความรู้สึกภายในของตัวเองดู ด้วยตาในดูว่า ตอนที่เราตอบคำถาม พบอะไรจากการตอบคำถามครั้งนี้บ้าง เรากล้าพอไหมที่จะตอบอย่างตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์กับตัวเองหรือไม่ และเพราะอะไรจึงซื่อสัตย์ เพราะอะไรจึงไม่ซื่อสัตย์)
๑๐. เมื่อได้คำตอบ ขอให้ค่อยๆแกะผ้าปิดตาออก แล้วพับอย่างเรียบร้อย รวบรวมมาวางที่โต๊ะครูด้วยอาการของผู้มีสติกำกับตัวเองอยู่เสมอ
๑๑. แบ่งกลุ่มนั่งเป็นวงกลม ๕-๗ คน แลกเปลี่ยนความรู้สึกและสิ่งที่ได้พบในตัวเอง จากการทำกิจกรรมนี้ สะท้อนทีละคน
๑๒. ครูขอบคุณสำหรับความร่วมมือ หวังว่าเด็กๆคงได้รับประโยชน์และกราบลาพระ เก็บสถานที่ช่วยกัน สวัสดีลาคุณครู

    อุปกรณ์ที่ใช้
๑.     คำถามสำหรับครู
๒.     ผ้าปิดตาตามจำนวนนักเรียน
๓.     ปากกาจดรายชื่อนักเรียน (สำหรับครูผู้ช่วย)
เวลาที่ใช้ ๓๐-๔๕ นาที


กิจกรรมเข้าถึงใจ

ขั้นตอนการทำงาน มีอะไรบ้าง และ ทำอย่างไร  :
๑.     ครูเกริ่นนำด้วยคำถาม “เวลาที่เรามีปัญหา ความทุกข์ ไม่สบายใจ เด็กๆแก้ไข หรือหาทางออกอย่างไรกันบ้าง”
๒.     “วันนี้ครูมี ๑ วิธีทำความรู้จักทุกข์ และจัดการกับมันอีก ๑ วิธีที่ได้เรียนรู้มาจากผู้รู้ มาแลกเปลี่ยน แบ่งปันกับเด็กๆ”
๓.     เป็นเกมที่จำเป็นต้องใช้ความสงบ งดการใช้เสียงพูดคุย เพื่อให้แต่ละคนสามารถมีสมาธิ อยู่กับตัวเอง ไตร่ตรองทบทวนตนเองได้ลึกซึ้ง ขอบคุณทุกคนล่วงหน้าที่จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีนะคะ
๔.   ครูขออาสา ๔ คน มาเอาปากกาและกระดาษกุญแจ เข้าถึงใจไปแจกเพื่อนๆคนละ ๑ ใบ
๕.   “เมื่อทุกคนได้ครบแล้ว ให้อ่าน ทำความเข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำในกระดาษนั้นได้เลย หากใครที่ยังไม่เข้าใจหรือยังไม่มั่นใจ สามารถถามครูเพิ่มเติมได้
๖.    กำชับให้นักเรียนเขียนชื่อกำกับด้วย
๗.   เมื่อทำเสร็จ ให้นั่งไตร่ตรองคำตอบของตัวเองสักครู่
๘.    ครูแจกแผ่นกระดาษ “โยนิโสมนสิการ” ให้คนที่ทำเสร็จแล้ว คนละ ๑ ใบ และบอกนักเรียนว่า แผ่นนี้ไม่ต้องเขียนชื่อ เพราะจะนำไปใช้ต่อ
๙.   เมื่อเสร็จ ให้นำมาส่งบนโต๊ะครูแล้วกลับไปนั่งที่อย่างสงบ รอเพื่อนๆ
๑๐. เสร็จทุกคน ครูสรุปด้วยการถามว่า “เป็นอย่างไรกันบ้าง สบายใจขึ้นไหม รู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้างหรือเปล่า ครูเล่าประสบการณ์หลังใช้วิธีนี้ของครูให้นักเรียนฟัง”
๑๑. ขอบคุณนักเรียนที่ให้ความร่วมมือ และขอบคุณครูริ่ง ผู้จัดกิจกรรมต้นแบบ

อุปกรณ์ที่ใช้
๑.    แผ่นป้าย ลูกดอก ๒ และ ความต้องการ (ติดบนผนังหรือบอร์ด ก่อนเริ่มกิจกรรม)
๒.     แผ่นกระดาษ “เข้าถึงใจ” และ “โยนิโสมนสิการ”
๓.     ปากกา ตามจำนวนคน หรือบอกให้นักเรียนนำมาด้วย
               เวลาที่ใช้ ๓๐-๔๕ นาที





ประเมิน ครั้งที่ ๑